(6 แถม 1)*1ลัง/คำสั่งซื้อ*VETREC Alfalfa Hay 500g หญ้าอัลฟัลฟ่าเกรดสูงสุด พรีเมี่ยม
(ซื้อ 6 แถม 1) VETREC Alfalfa Hay 500g
หญ้าอัลฟัลฟ่าเกรดสูงสุด พรีเมี่ยม
ปกติ ถุงละ 145บาท
อัลฟาฟ่า 100% ที่ทำการตัดครั้งแรก (first cutting alfalfa) หรืออยู่ในช่วงที่กำลังสร้างกิ่งก้านใบและตาดอก (mid-bud stage) ซึ่งถือว่าเป็นจุดพอดีของพืชที่จะมีระดับของคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับสัตว์กินพืชในวัยเจริญเติบโต ต้องการฟื้นฟูสุขภาพ หรือต้องการผลผลิตสูง โดยยังให้ระดับโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุที่ดี มีความน่ากิน และการย่อยได้ของสัตว์สูง ขญะที่ให้เยื่อใยอาหารชนิดลิกนินและเซลลูโลสเพิ่มขึ้นในระดับพอดี ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ อัลฟัลฟ่าในระยะนี้จึงไม่มีเมล็ดปน ที่จะพบในระยะแก่เท่านั้น ซึ่งทำให้คุณค่าทางโภชนาการของพืชลดลง เนื่องจากนำไปสร้างเมล็ด
อัลฟัลฟ่าเป็นพืชตระกูลถั่วอาหารสัตว์ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าหญ้าต่างๆ มีระดับเยื่อใยอาหาร แคลเซียม วิตามินและโปรตีนสูง จึงเหมาะสำหรับลูกสัตว์กินพืชที่กำลังเจริญเติบโต แม่ตั้งท้องและเลี้ยงลูก และยังถูกใช้ในการฟื้นฟูพลังงานและสุขภาพในสัตว์ป่วย นิยมใช้ในสัตว์กินพืชหลายชนิด เช่น กระต่าย หนูตะเภา ชินชิลล่า เต่าบก แพรี่ด็อก เดกู ม้า วัว และสัตว์ในสวนสัตว์
-ช่วยในการสึกหรอของฟัน
-ปราศจากแมลงและสัตว์
-กลิ่นหอมและรสชาติดี
-ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร
-หญ้าที่สัตวแพทย์แนะนำและนิยมใช้ทั่วโลก
คุณภาพของอัลฟัลฟ่าที่ดีที่สุดสำหรับกระต่ายและสัตว์กินพืชขนาดเล็ก
-ระยะเก็บเกี่ยวอัลฟัลฟ่าที่ดีที่สุด อัลฟัลฟ่าระยะที่เหมาะสมสำหรับกระต่ายและสัตว์กินพืชขนาดเล็ก ที่มีระดับเมตาบอลิสมสูง และต้องการการเจริญเติบโตที่ดี ตั้งท้องและเลี้ยงลูก ต้องการฟื้นฟูจากการเจ็บป่วย หรือบำรุงในวัยชรา จะอยู่ในระยะแตกก้านใบ (mid-bud stage) ที่จะให้คุณค่าทางโภชนการที่ดีที่สุด จึงไม่แนะนำระยะอื่น
คำแนะนำในการให้อัลฟัลฟ่า
-จะเริ่มใช้อัลฟัลฟ่าเลี้ยงลูกกระต่ายตั้งแต่อายุ 3 สัปดาห์ จนถึง 6 เดือนหรือเมื่อโตเต็มวัยแล้ว หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นหญ้าทิโมธี และถือว่าเป็นของกินเล่นที่เหมาะสมในกระต่ายโตแล้วเช่นกัน สัตวแพทย์แนะนำให้ใช้อัลฟัลฟ่าเลี้ยงกระต่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของ อาหารทั้งหมดหรือกินได้ไม่จำกัด จะช่วยทำให้วัตว์ห่างไกลจากโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อย ได้แก่ ฟันไม่สึก
(Malocclusion) ก้อนขนอุดกั้น (Trichobezoar) ลำไส้อืดหรือลำไส้เคลื่อนตัวช้า (Gastrointestinal Hypomotility)
และลำไส้อักเสบจากการเสียสมดุลจุลชีพ (Dysbiosis) เป็นต้น
(5)
(2)
(4.25)
(4)