B13 เมล็ดเชีย/เมล็ดเจีย (Black Chia seeds) 30กรัม
เมล็ดเชีย/เมล็ดเจีย (Black Chia seeds)
เหมาะสำหรับ: คนกินคลีน ผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดี ลดความอ้วน เพิ่มเติมสารอาหารให้กับร่างกาย
ประโยชน์: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็น มีแคลเซียมสูง มีไฟเบอร์สูง มีคอเลสเตอรอลต่ำ
วิธีทำหรือรับประทาน: โรยหน้าสลัด แช่น้ำ ก่อน ค่อยใส่ในเครื่องดื่ม มันจะพองหมือนแมงลัก โรยบนอาหาร ใส่ในน้ำเเละน้ำปั่นต่างๆ ทำท๊อปปิ้งขนมปัง ขนมปังอบ
เมล็ดเจีย กับเมนูสุขภาพที่หลากหลาย
อาหารคาว ได้แก่ สลัดผัก พาสต้า สปาเกตตี้ พิซซ่า และก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่เป็นผักเครื่องเคียงในเมนูทุกชนิด
อาหารหวาน ได้แก่ ผสมเป็นสเปรด (Spread) กับเนยเอาไว้ทาขนมปัง นำไปโรยใส่ไอศกรีม กินกับโยเกิร์ต เพิ่มในซีเรียล ทำเมนูสมูธตี้และมิลค์เชค
เครื่องดื่ม ได้แก่ ใส่ในน้ำผลไม้คั้นสด หรือทำเบเกอรีชนิดต่าง ๆ พุดดิ้ง เมนูชา กาแฟ
การเก็บรักษา ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ไม่มีความชื้นและแสงแดด ในอุณหภูมิห้องปกติ
เมล็ดเจีย ปริมาณการกินที่ต่อสุขภาพ:
+เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
เด็กที่อายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคประมาณ 1.4-4.3 กรัมต่อวัน
วัยผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 15 กรัม หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณ 33-41 กรัมทุก ๆ 3 เดือน
ข้อยกเว้นน่ารู้ของเมล็ดเจีย
+คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น มีแก๊สในกระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก รวมถึงกรดไหลย้อนนั้นหากกินเมล็ดเจียเข้าไปแล้ว จะให้อาการหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเส้นใยไฟเบอร์ที่ขยายตัวในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 ที่จะยิ่งกระตุ้นให้ตับอ่อนเร่งสร้างน้ำย่อยออกมานั่นเอง
+คนที่ต้องเข้ารับการศัลยกรรม หรือ มีประวัติการใช้ยาแอสไพริน ไม่ควรกินเมล็ดเจีย เพราะจะยิ่งทำให้หลอดเลือดบางลง ซึ่งอาจมีผลต่อการเกิดภาวะฮีโมฟิเลีย (Haemophiliacs) หรือภาวะที่เลือดแข็งตัวช้า เลือดไหลไม่หยุด
+มีงานวิจัยเผยว่าผู้ชายไม่ควรบริโภคเมล็ดเจียมากเกินไป เพราะในเมล็ดเจียมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวแอลฟา ลิโนเลอิก (alpha-linoleic acid) ที่จะไปกระตุ้นให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางบทความระบุว่าไม่เป็นความจริง เรื่องนี้ยังคงต้องศึกษาต่อไป แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากควรงดการบริโภค
+ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรบริโภคเมล็ดเจีย เพราะมีผลต่อแรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัวให้ต่ำลง (Diastolic blood pressure) อาจก่อให้เกิดอาการช็อก หรือหมดสติได้
+ไม่ควรบริโภคเมล็ดเจียติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี เพราะร่างกายจะเกิดการเสพติด และเลิกยาก ทางที่ดีควรเว้นช่วงไปบ้าง
+ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรบริโภคเมล็ดเจีย เพราะมีผลต่อสารอาหารในน้ำนมให้เปลี่ยนไปจากเดิม
+การกินเมล็ดเจียร่วมกับอาหารเสริมวิตามินบี 17 ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายสะสมสารไฟโตนิวเทรียนท์ในปริมาณมาก กลายเป็นสารพิษที่นำมาซึ่งโรคมะเร็งในที่สุด
#เมล็ดเชีย #เมล็ดเจีย #BlackChiaseeds